ปลั๊กอินป๊อปอัป WordPress ที่ดีที่สุดและวิธีการแปลที่คุณเลือกด้วย ConveyThis

รายการปลั๊กอินป๊อปอัป WordPress ที่ดีที่สุดและวิธีการแปลปลั๊กอินที่คุณเลือก

หัวข้อของป๊อปอัปบนเว็บไซต์เป็นหัวข้อที่ขัดแย้งกัน โดยมีความเห็นที่ชัดเจนทั้งสองฝ่าย ในแง่หนึ่ง มีหลายคนที่โต้แย้งว่าป๊อปอัปเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการแปลงข้อมูล ในอีกแง่หนึ่ง มีผู้คัดค้านที่เชื่อว่าป๊อปอัปจะรบกวนประสบการณ์ของผู้ใช้และสร้างความรำคาญให้กับผู้เยี่ยมชม แท้จริงแล้ว ป๊อปอัปอาจดูเป็นการรบกวน โดยเฉพาะเมื่อไม่ได้ใช้งานอย่างรอบคอบหรืออย่างมีกลยุทธ์ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับเครื่องมือส่วนใหญ่ กุญแจสำคัญของความสำเร็จอยู่ที่วิธีการนำเครื่องมือไปใช้

ตามการวิจัยของ Sumo[4] ป๊อปอัปที่มีประสิทธิภาพสูงสุด 10% มีความสามารถที่น่าทึ่งในการแปลงสูงถึง 9.3% แม้แต่ป๊อปอัปที่มีประสิทธิภาพปานกลางก็ยังเหนือกว่าช่องทางการตลาดอื่น ๆ โดยมอบอัตราการแปลงที่สูงกว่า 3% สถิติเหล่านี้เน้นย้ำถึงประสิทธิภาพของป๊อปอัปที่ออกแบบมาอย่างดี ปัญหาไม่ได้อยู่ที่รูปแบบโดยตรง แต่อยู่ที่วิธีและเวลาที่ใช้ แม้ว่าป๊อปอัปบางอันจะสร้างความปั่นป่วนได้จริง แต่ป๊อปอัปอื่น ๆ อาจมีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อหากได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงประสบการณ์ของผู้ใช้

นี่คือสาเหตุที่บทความนี้เน้นที่ป๊อปอัปที่สามารถส่งผลดีต่อประสิทธิภาพของเว็บไซต์ของคุณ เป้าหมายคือการเน้นย้ำถึงวิธีการใช้ป๊อปอัปอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อดึงดูดผู้เข้าชม สร้างยอดขาย สร้างรายชื่ออีเมลที่มีประโยชน์ และลดอัตราการละทิ้งตะกร้าสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังนี้ ป๊อปอัปสามารถให้ประโยชน์ได้เป็นพิเศษ ป๊อปอัปที่เตือนผู้ใช้เกี่ยวกับตะกร้าสินค้าที่ถูกละทิ้งหรือเสนอสิ่งจูงใจ เช่น ส่วนลด สามารถช่วยดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อสินค้าอีกครั้ง

เหตุใดป๊อปอัปจึงคุ้มค่าต่อการพูดคุย

คำตอบนั้นง่ายมาก: ป๊อปอัปจะทำงานได้เมื่อดำเนินการอย่างถูกต้อง แม้ว่าลูกค้าจำนวนมากอาจตั้งใจที่จะออกจากเว็บไซต์ในตอนแรก แต่ป๊อปอัปประเภทที่เหมาะสมสามารถป้องกันลูกค้าได้ประมาณ 35% ปรากฏการณ์นี้เรียกว่าป๊อปอัปที่มีจุดประสงค์เพื่อออกจากเว็บไซต์ ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งในการลดอัตราการออกจากเว็บไซต์และรักษาลูกค้าที่อาจสูญเสียไป หากเปิดใช้งานป๊อปอัปที่กำหนดเป้าหมายในช่วงเวลาที่เหมาะสม นั่นคือเมื่อผู้เยี่ยมชมกำลังจะออกจากเว็บไซต์ คุณสามารถนำเสนอข้อเสนอที่กระตุ้นให้พวกเขาอยู่ต่อ มีส่วนร่วม หรือแม้แต่ซื้อสินค้า

แม้ว่าจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับป๊อปอัป แต่ความจริงก็คือป๊อปอัปสามารถเป็นทรัพย์สินที่มีค่าต่อกลยุทธ์โดยรวมของเว็บไซต์ของคุณได้ เมื่อใช้อย่างชาญฉลาด ป๊อปอัปจะมอบข้อเสนอหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เยี่ยมชม แทนที่จะรบกวนประสบการณ์การใช้งานของผู้เยี่ยมชมเท่านั้น ความสามารถของป๊อปอัปในการเพิ่มอัตราการแปลง ช่วยลูกค้าที่อาจสูญเสียไป และกระตุ้นยอดขายนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

บทความนี้ไม่ได้กล่าวถึงแค่การสนับสนุนการใช้ป๊อปอัปเท่านั้น แต่ยังมุ่งหวังที่จะช่วยให้คุณปรับแต่งกลยุทธ์ป๊อปอัปของคุณได้อีกด้วย บทความนี้จะกล่าวถึงไม่เพียงแต่การเพิ่มประสิทธิภาพป๊อปอัปเพื่อให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างข้อความที่น่าดึงดูดและได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อดึงดูดผู้เยี่ยมชมของคุณอีกด้วย นอกจากนี้ บทความนี้จะกล่าวถึงการแปลป๊อปอัปและการใช้งานในบริบทระดับโลกสำหรับผู้ที่ต้องการขยายธุรกิจในระดับนานาชาติ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่พลาดโอกาสทางการตลาดระดับนานาชาติ

วิธีเพิ่มประสิทธิภาพป๊อปอัป WordPress ของคุณ

ป๊อปอัปเมื่อใช้ถูกต้องจะช่วยเพิ่มความสามารถของเว็บไซต์ของคุณในการแปลงผู้เยี่ยมชมเป็นลูกค้าเป้าหมาย ลูกค้า และสมาชิกได้อย่างมาก อย่างไรก็ตาม ป๊อปอัปที่ออกแบบมาไม่ดีหรือรบกวนเกินไปอาจทำให้ผู้ใช้หนีไปได้ หากต้องการให้ป๊อปอัปของคุณทำงานเพื่อประโยชน์ของคุณและส่งผลดีต่ออัตราการแปลงของเว็บไซต์ของคุณ คุณจำเป็นต้องออกแบบและใช้งานอย่างมีกลยุทธ์ นี่คือวิธีที่คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพป๊อปอัป WordPress ของคุณเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น:

ให้แน่ใจว่าเนื้อหามีคุณค่า:

ขั้นตอนแรกในการสร้างป๊อปอัปที่มีประสิทธิภาพคือการทำให้แน่ใจว่าเนื้อหาที่นำเสนอนั้นมีคุณค่าต่อผู้เยี่ยมชม เมื่อผู้ใช้พบป๊อปอัป พวกเขาควรเข้าใจทันทีว่าจะได้รับอะไรและมีประโยชน์อย่างไร หากข้อเสนอไม่ชัดเจนหรือไม่เกี่ยวข้อง ผู้เยี่ยมชมมักจะปิดป๊อปอัปโดยไม่โต้ตอบ

• เสนอส่วนลดหรือโปรโมชั่น : ส่วนลดหรือโปรโมชั่นพิเศษที่มีระยะเวลาจำกัดสามารถดึงดูดใจผู้เยี่ยมชมได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขารู้สึกว่าเป็นข้อเสนอที่ดี
• จัดเตรียมทรัพยากรที่มีคุณค่า : ตัวอย่างเช่น การเสนอ e-book ฟรี รายการตรวจสอบ หรือคู่มือดาวน์โหลดได้เพื่อแลกกับที่อยู่อีเมลของพวกเขา อาจเป็นข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้อง
• การเข้าถึงหรือสมาชิกพิเศษ : ป๊อปอัปที่ให้การเข้าถึงเนื้อหาพิเศษหรือสิทธิประโยชน์ของสมาชิกมีประสิทธิผลในการสร้างความรู้สึกเร่งด่วนและความพิเศษ
• ข้อเสนอการแก้ไขปัญหา : ปรับแต่งป๊อปอัปของคุณให้ตรงกับปัญหาหรือจุดเจ็บปวดของผู้เยี่ยมชม หากพวกเขาเรียกดูบล็อกหรือหน้าผลิตภัณฑ์ของคุณ ให้ใส่เนื้อหาหรือโซลูชันที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของพวกเขาโดยตรง

กุญแจสำคัญคือการจัดแนวข้อเสนอคุณค่าของป๊อปอัปให้สอดคล้องกับการกระทำปัจจุบันของผู้ใช้หรือขั้นตอนในการเดินทางของลูกค้า ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้กำลังจะออกจากไซต์ของคุณ การเสนอโค้ดส่วนลดอาจเป็นวิธีที่ดีในการดึงดูดพวกเขาให้กลับมา

เรื่องเวลาและการวางตำแหน่ง:

ประสิทธิภาพของป๊อปอัปขึ้นอยู่กับว่าป๊อปอัปจะปรากฏเมื่อใดและที่ใดบนเว็บไซต์ของคุณ ป๊อปอัปที่ปรากฏเร็วเกินไปหรือบ่อยเกินไปอาจทำให้ผู้เยี่ยมชมหงุดหงิดได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีอัตราการออกจากเว็บไซต์สูงขึ้น เพื่อให้เกิดผลกระทบสูงสุด ควรเปิดป๊อปอัปในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด:

• ป๊อปอัปแสดง เจตนาออกจากเว็บไซต์: ป๊อปอัปเหล่านี้จะถูกเรียกใช้งานเมื่อผู้ใช้แสดงสัญญาณว่ากำลังออกจากเว็บไซต์ของคุณ เช่น เลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ด้านบนของหน้าต่างเบราว์เซอร์ (แสดงว่าผู้ใช้กำลังจะปิดแท็บหรือออกจากระบบ) ป๊อปอัปแสดงเจตนาออกจากเว็บไซต์มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการดึงดูดผู้เยี่ยมชมที่มิฉะนั้นจะออกจากเว็บไซต์โดยไม่ดำเนินการใดๆ
• ป๊อปอัปที่หน่วงเวลา : แทนที่จะแสดงป๊อปอัปทันทีที่โหลดหน้า ให้ลองกำหนดเวลาที่ป๊อปอัปจะปรากฏขึ้นหลังจากที่ผู้เยี่ยมชมใช้เวลาบนหน้าเพจถึงจำนวนที่กำหนด (เช่น 30 วินาที) ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสนใจเนื้อหาของคุณ และป๊อปอัปสามารถมอบข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาได้มากขึ้น
• ป๊อปอัปแบบเลื่อนลงมา : กลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมอีกประการหนึ่งคือการใช้ป๊อปอัปแบบเลื่อนลงมาซึ่งจะเปิดใช้งานเมื่อผู้เยี่ยมชมเลื่อนลงมาตามเปอร์เซ็นต์ที่กำหนดของหน้าเพจ (เช่น 50%) ซึ่งบ่งบอกว่าผู้เยี่ยมชมสนใจเนื้อหาและมีแนวโน้มที่จะตอบรับข้อเสนอที่ตรงเวลามากขึ้น
• ป๊อปอัปการละทิ้งรถเข็นสินค้า : สำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ป๊อปอัปที่ปรากฏขึ้นเมื่อลูกค้าเพิ่มสินค้าลงในรถเข็นสินค้าแต่กำลังจะออกจากรถเข็นโดยไม่ซื้อสินค้าอาจช่วยลดการละทิ้งรถเข็นสินค้าได้ การเตือนความจำหรือส่วนลดในเวลาที่เหมาะสมสามารถกระตุ้นให้ผู้ใช้ซื้อสินค้าให้เสร็จสิ้นได้

การวางตำแหน่งและกำหนดเวลาของป๊อปอัปอย่างมีกลยุทธ์ จะทำให้คุณสามารถดึงดูดความสนใจของผู้เยี่ยมชมได้ในช่วงเวลาที่พวกเขามีแนวโน้มที่จะดำเนินการมากที่สุด

ให้เรียบง่ายและไม่รบกวน:

ข้อผิดพลาดประการหนึ่งที่เจ้าของเว็บไซต์มักทำกับป๊อปอัปก็คือ ผู้ใช้มักจะรู้สึกอึดอัดกับป๊อปอัปมากเกินไป มีข้อความมากเกินไป หรือมีการออกแบบที่ซับซ้อนเกินไป ผู้เยี่ยมชมอาจรู้สึกหงุดหงิดได้อย่างรวดเร็วจากการถูกรบกวนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่ประสบการณ์เชิงลบ

• การออกแบบที่เรียบง่าย : ป๊อปอัปที่ยุ่งเหยิงมักจะไม่มีประสิทธิภาพ ให้ออกแบบป๊อปอัปของคุณให้เรียบง่ายและเข้าใจง่าย ใช้หัวข้อที่ชัดเจน ข้อความที่กระชับ และปุ่มเรียกร้องให้ดำเนินการ (CTA) ที่โดดเด่น
• ข้อเสนอครั้งละหนึ่งรายการ : หลีกเลี่ยงการเสนอข้อเสนอหรือตัวเลือกหลายรายการให้ผู้ใช้ได้รับรู้ การส่งข้อความที่ชัดเจนเพียงข้อความเดียวพร้อมคำกระตุ้นการดำเนินการหลักเพียงข้อความเดียว เช่น "รับส่วนลด" หรือ "รับคู่มือฟรี" มีแนวโน้มที่จะสร้างการตอบสนองเชิงบวกได้มากกว่า
• ปิดได้ง่าย : ให้แน่ใจว่าป๊อปอัปของคุณมีปุ่มปิดที่ชัดเจนและค้นหาได้ง่าย ผู้เยี่ยมชมควรรู้สึกว่าพวกเขาสามารถควบคุมประสบการณ์ได้ ทำให้พวกเขาออกจากป๊อปอัปได้โดยไม่รู้สึกหงุดหงิด วิธีที่ดีคือทำให้ป๊อปอัปปิดได้โดยคลิกนอกป๊อปอัปหรือกดปุ่ม 'Esc'

ด้วยการรักษาแนวทางที่เป็นมิตรกับผู้ใช้และเรียบง่าย ป๊อปอัปของคุณก็จะมีแนวโน้มที่จะสร้างผลลัพธ์เชิงบวกโดยไม่ทำให้ผู้เยี่ยมชมของคุณหงุดหงิดหรือรู้สึกแย่

สร้างป๊อปอัปให้เป็นมิตรกับอุปกรณ์เคลื่อนที่:

เนื่องจากปริมาณการเข้าชมจากมือถือคิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของการเข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมด การเพิ่มประสิทธิภาพป๊อปอัปสำหรับอุปกรณ์มือถือจึงมีความสำคัญ ป๊อปอัปที่ใช้งานได้ดีบนเดสก์ท็อปอาจดูแตกต่างไปจากอุปกรณ์มือถือโดยสิ้นเชิง ดังนั้น คุณต้องแน่ใจว่าป๊อปอัปของคุณตอบสนองและมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นในทุกขนาดหน้าจอ

• การออกแบบที่ตอบสนอง : ให้แน่ใจว่าป๊อปอัปของคุณปรับให้เหมาะกับขนาดหน้าจอที่เล็กลงได้ดี เค้าโครงและเนื้อหาควรปรับขนาดอย่างเหมาะสมโดยไม่บิดเบือนหรือล้นเกินขอบเขตหน้าจอ
• หลีกเลี่ยงป๊อปอัปแบบเต็มหน้าจอ : ป๊อปอัปที่กินพื้นที่หน้าจอมือถือทั้งหมดมักจะปิดได้ยาก ทำให้มีอัตราการออกจากระบบสูง เลือกใช้ป๊อปอัปที่มีลักษณะเป็นแบนเนอร์ขนาดเล็กหรือหน้าต่างแบบโมดอลที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบได้อย่างง่ายดาย
• ปิดการขายอย่างรวดเร็ว : บนมือถือ ผู้ใช้คาดหวังว่าป๊อปอัปจะปิดได้ง่าย โดยควรใช้ปุ่ม "X" ขนาดใหญ่หรือปุ่ม CTA ที่ชัดเจน การทำให้แน่ใจว่าป๊อปอัปบนมือถือของคุณใช้งานง่ายจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจของผู้ใช้และอัตราการแปลง

การเพิ่มประสิทธิภาพป๊อปอัปสำหรับอุปกรณ์พกพาช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้เยี่ยมชมจะได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์ใดในการเข้าถึงไซต์ของคุณ

ทดสอบและวิเคราะห์:

องค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพป๊อปอัปคือการทดสอบประสิทธิภาพของป๊อปอัปอย่างต่อเนื่อง คุณควรตรวจสอบประสิทธิภาพของป๊อปอัปเป็นประจำและทดลองใช้กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อดูว่ากลยุทธ์ใดที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายของคุณมากที่สุด

• การทดสอบ A/B : ทดสอบ A/B กับองค์ประกอบต่างๆ ของป๊อปอัปของคุณ รวมถึงข้อความ การออกแบบ ช่วงเวลา และตำแหน่ง ตัวอย่างเช่น ทดสอบหัวข้อ สีปุ่ม และข้อความ CTA ต่างๆ เพื่อดูว่าการผสมผสานใดทำให้มีอัตราการแปลงสูงสุด การทดสอบ A/B ช่วยให้คุณตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูลและปรับแต่งกลยุทธ์ป๊อปอัปของคุณได้ตามระยะเวลา
• ตรวจสอบเมตริกที่สำคัญ : ติดตามเมตริกที่สำคัญ เช่น อัตราการแปลงของป๊อปอัป อัตราตีกลับ และอัตราการออกจากระบบ หากคุณสังเกตเห็นอัตราการออกจากระบบที่สูงสำหรับป๊อปอัปเฉพาะ อาจบ่งบอกว่าข้อเสนอหรือระยะเวลาไม่เหมาะสม และจำเป็นต้องทำการปรับเปลี่ยน
• ทำซ้ำตามคำติชม : ให้ความสำคัญกับคำติชมของผู้ใช้ ทั้งแบบตรง (เช่น ข้อร้องเรียนหรือความคิดเห็น) และแบบอ้อม (เช่น การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม) หากคุณได้รับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับป๊อปอัปที่รบกวนเกินไป หรือหากคุณสังเกตเห็นว่าอัตราการแปลงลดลงหลังจากป๊อปอัปปรากฏขึ้น อาจถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยนวิธีการของคุณแล้ว

การทดสอบและวิเคราะห์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณอยู่เหนือแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงและพฤติกรรมของผู้ใช้ ทำให้มั่นใจได้ว่าป๊อปอัปของคุณยังคงมีประสิทธิภาพตลอดเวลา

การเพิ่มประสิทธิภาพป๊อปอัปไม่ได้หมายความถึงการเพิ่มอัตราการแปลงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ราบรื่นและไม่รบกวนซึ่งมอบคุณค่าที่แท้จริงให้กับผู้เยี่ยมชมด้วย การทำให้แน่ใจว่าป๊อปอัปของคุณมีจังหวะที่เหมาะสม เกี่ยวข้องกับบริบท เป็นมิตรกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ และปรับให้เหมาะสมสำหรับการแปลง คุณสามารถปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้พร้อมกับขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่วัดผลได้สำหรับธุรกิจของคุณ

ปลั๊กอินป๊อปอัป WordPress ที่ดีที่สุด 

เมื่อพูดถึงการเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้และเพิ่มการแปลงบนเว็บไซต์ของคุณ ป๊อปอัปเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การเลือกปลั๊กอินป๊อปอัป WordPress ที่เหมาะสมนั้นมีความสำคัญ เนื่องจากปลั๊กอินแต่ละตัวมีคุณลักษณะและตัวเลือกการปรับแต่งที่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาถึงความยืดหยุ่นของปลั๊กอินเหล่านี้ จึงมีความสำคัญที่จะต้องเลือกปลั๊กอินที่สอดคล้องกับเป้าหมายของไซต์ของคุณอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ สิ่งที่ควรทราบคือ ConveyThis ซึ่งเป็น ปลั๊กอินแปลภาษา WordPress ยอดนิยมนั้นเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับปลั๊กอินป๊อปอัปหลักทั้งหมด ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับไซต์ระดับนานาชาติที่ต้องการป๊อปอัปหลายภาษา

ต่อไปนี้เป็นปลั๊กอินป๊อปอัป WordPress ที่ดีที่สุด 5 อันดับ ทั้งแบบฟรีและแบบชำระเงิน ที่สามารถช่วยคุณเพิ่มการแปลงและปรับปรุงการมีส่วนร่วมของผู้ใช้:

1. การเร่งรีบ:

Hustle เป็นหนึ่งในปลั๊กอินป๊อปอัปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับ WordPress โดยมีการติดตั้งใช้งานจริงมากกว่า 90,000 ครั้ง ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการตลาดทางอีเมล การสร้างรายชื่อผู้สนใจซื้อ และการสร้างแบบฟอร์มการสมัครรับข้อมูล ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้ WordPress รายใหม่หรือผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ Hustle ช่วยให้คุณสร้าง ออกแบบ และปรับแต่งป๊อปอัปของคุณได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว คุณสามารถปรับแต่งสี สไตล์ แบบอักษร และอื่นๆ ได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง

คุณสมบัติหลัก:

• การแสดงแอนิเมชั่นที่ราบรื่น : ป๊อปอัปจะแสดงพร้อมเอฟเฟกต์แอนิเมชั่นที่ราบรื่นเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ใช้
• แดชบอร์ดที่ใช้งานง่าย : อินเทอร์เฟซผู้ใช้ของปลั๊กอินนั้นง่ายต่อการจัดการ ทำให้เข้าถึงได้สำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ใช้ที่มีประสบการณ์
• การบูรณาการผู้ให้บริการอีเมล : Hustle รวมเข้ากับแพลตฟอร์มการตลาดอีเมลยอดนิยม เช่น MailChimp, Aweber, Constant Contact, Campaign Monitor และ Sendy ช่วยให้สร้างและจัดการรายชื่ออีเมลของคุณได้อย่างง่ายดาย
• ตัวแก้ไขการออกแบบในตัว : ปรับแต่งป๊อปอัปของคุณด้วยตัวแก้ไขการออกแบบที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องเขียนโค้ด
• เทมเพลตสำเร็จรูป : Hustle มีเทมเพลตการตลาดที่ออกแบบไว้ล่วงหน้าและพร้อมใช้งาน ดังนั้นคุณจึงเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็ว

Hustle นั้นฟรี แต่หากต้องการฟีเจอร์ขั้นสูงจะมีเวอร์ชันพรีเมียมให้ใช้งาน

2. OptinMonster:

OptinMonster เป็นปลั๊กอินป๊อปอัป WordPress ที่ทรงพลังและเป็นที่นิยม ซึ่งเชี่ยวชาญในการเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ให้เป็นสมาชิกและลูกค้า ปลั๊กอินนี้ช่วยให้คุณสร้างและเพิ่มรายชื่ออีเมลด้วยป๊อปอัปที่กำหนดเป้าหมายซึ่งปรับแต่งได้สูงและมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนการแปลง

คุณสมบัติหลัก:

• ป๊อปอัปเฉพาะมือถือ : OptinMonster ช่วยให้คุณสามารถสร้างป๊อปอัปที่จะเปิดใช้งานเมื่อผู้ใช้ใช้โทรศัพท์มือถือเท่านั้น ช่วยให้มั่นใจได้ว่าป๊อปอัปของคุณได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมสำหรับการมีส่วนร่วมในอุปกรณ์มือถือ
• การปรับแต่งที่ตรงเป้าหมาย : ปรับแต่งป๊อปอัปตามหน้า ส่วน แท็ก หรือ URL ที่เฉพาะเจาะจง ช่วยให้ผู้เยี่ยมชมได้รับประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น
• ป๊อปอัป WooCommerce : หากคุณดำเนินการร้านค้าออนไลน์ OptinMonster สามารถช่วยสร้างป๊อปอัปที่ตรงกับผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้เพิ่มลงในรถเข็นของตนได้ เพื่อกระตุ้นให้พวกเขาทำการซื้อให้เสร็จสมบูรณ์
• ป๊อปอัปตามกำหนดเวลา : ตั้งวันที่และเวลาที่เฉพาะเจาะจงสำหรับให้ป๊อปอัปของคุณปรากฏ ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับโปรโมชั่นตามฤดูกาลหรือการขายช่วงวันหยุด
• การติดตามความสำเร็จ : ติดตามประสิทธิภาพของป๊อปอัปของคุณเพื่อทำความเข้าใจว่าอะไรได้ผลและเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์ของคุณ

OptinMonster เสนอการรับประกันคืนเงิน 100% ภายใน 14 วันแรก ถึงแม้ว่าจะไม่มีการทดลองใช้ฟรีก็ตาม

3. เอเลเมนเตอร์โปร:

Elementor คือเครื่องมือสร้างเพจยอดนิยมที่มีเว็บไซต์ WordPress มากกว่า 1 ล้านเว็บไซต์ใช้ แม้ว่าจะขึ้นชื่อในด้านการช่วยเหลือผู้ใช้สร้างเพจที่สวยงาม แต่เครื่องมือนี้ยังมีคุณสมบัติอันทรงพลังสำหรับการสร้างป๊อปอัปแบบโต้ตอบอีกด้วย

คุณสมบัติหลัก:

• ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ได้รับการปรับปรุง (UX) : Elementor ช่วยให้การสร้างป๊อปอัปที่โต้ตอบกับแบบฟอร์มเป็นเรื่องง่าย ซึ่งมอบประสบการณ์โดยรวมที่ดีขึ้นให้กับผู้ใช้ของคุณ
• การบูรณาการแบบไร้รอยต่อ : Elementor สามารถบูรณาการกับเครื่องมือออนไลน์ยอดนิยม เช่น MailChimp, HubSpot และอื่นๆ ช่วยให้คุณสามารถซิงค์ป๊อปอัปของคุณกับกลยุทธ์การตลาดของคุณได้
• ทริกเกอร์ที่ปรับแต่งได้ : คุณสามารถตั้งค่าป๊อปอัปให้ปรากฏตามทริกเกอร์ที่เฉพาะเจาะจง เช่น เวลาบนหน้า ความลึกของการเลื่อน หรือการคลิกบนองค์ประกอบบางอย่าง
• Welcome Mat : Elementor นำเสนอป๊อปอัปแบบเต็มหน้าจอ (Welcome Mat) ซึ่งเหมาะสำหรับการดึงดูดความสนใจของผู้ใช้เมื่อพวกเขาเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณ
• อินเทอร์เฟซการออกแบบที่เรียบง่าย : สร้างป๊อปอัปตั้งแต่เริ่มต้นโดยไม่จำเป็นต้องรู้วิธีการเขียนโค้ด ด้วยอินเทอร์เฟซแบบลากและวางของ Elementor

Elementor Pro มีราคาเริ่มต้นที่ 49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี พร้อมการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันหากคุณไม่พอใจกับปลั๊กอิน

4. เมล Optin:

MailOptin เป็นปลั๊กอินป๊อปอัปอันทรงพลังที่ช่วยให้คุณสร้างป๊อปอัป แบนเนอร์ และแบบฟอร์มที่มีการออกแบบสวยงามเพื่อเพิ่มจำนวนรายชื่ออีเมลของคุณ ปลั๊กอินนี้ช่วยให้สร้างป๊อปอัปที่ปรับแต่งได้สูงซึ่งสามารถกำหนดเป้าหมายไปยังผู้เยี่ยมชมเฉพาะได้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการแปลงเป็นลูกค้า

คุณสมบัติหลัก:

• ตัวเลือกป๊อปอัปที่ยืดหยุ่น : เพิ่มแบนเนอร์หรือแบบฟอร์มสมัครสมาชิกแบบป๊อปอัปลงในวิดเจ็ตหรือส่วนใด ๆ ของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย
• การวิเคราะห์โดยละเอียด : ติดตามประสิทธิภาพของป๊อปอัปของคุณและรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ผล ช่วยให้คุณปรับแต่งกลยุทธ์ของคุณได้
• การแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ : รับการแจ้งเตือนทางอีเมลทันทีหลังจากการแปลงเพื่อช่วยให้คุณสามารถติดตามความพยายามสร้างโอกาสในการขายของคุณได้
• แอนิเมชั่นในตัว : เพิ่มประสิทธิภาพป๊อปอัปของคุณด้วยเอฟเฟกต์แอนิเมชั่น CSS3 กว่า 30 แบบเพื่อให้ดึงดูดใจยิ่งขึ้น
• การบูรณาการที่ง่ายดาย : MailOptin สามารถบูรณาการกับบริการการตลาดอีเมลยอดนิยม เช่น MailChimp, ConvertKit และ AWeber เพื่อให้คุณสามารถส่งอีเมลติดตามผลแบบอัตโนมัติและเลี้ยงดูลูกค้าเป้าหมายได้

ราคาของ MailOptin เริ่มต้นที่ 79 เหรียญสหรัฐต่อปี โดยมีทั้งคุณสมบัติฟรีและพรีเมียมให้เลือกใช้ตามความต้องการของคุณ

5. โปรแกรมสร้างป๊อปอัป:

Popup Maker เป็นปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยมและใช้งานกันอย่างแพร่หลาย โดยมีการติดตั้งไปแล้วกว่า 600,000 ครั้ง ข้อดีประการหนึ่งคือมีเวอร์ชันฟรีให้ใช้งาน ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้ที่มีงบประมาณจำกัด อย่างไรก็ตาม เวอร์ชันที่ต้องชำระเงินมีคุณลักษณะเพิ่มเติมที่ช่วยให้คุณปรับแต่งป๊อปอัปของคุณให้เหมาะสมยิ่งขึ้น

คุณสมบัติหลัก:

• อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ : Popup Maker นำเสนออินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายที่ทำให้การสร้างป๊อปอัปเป็นเรื่องง่ายโดยไม่ต้องเรียนรู้อะไรมากมาย
• ตัวเลือกป๊อปอัปที่หลากหลาย : คุณสามารถสร้างป๊อปอัปได้หลากหลายประเภท รวมถึงแบนเนอร์ ป๊อปอัปแบบโมดอล สไลด์อิน และอื่นๆ อีกมากมาย
• การรวมแบบฟอร์มการติดต่อ : สร้างป๊อปอัปได้อย่างง่ายดายด้วยแบบฟอร์มการติดต่อในตัวเพื่อดึงดูดลูกค้าเป้าหมายและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ใช้
• ความเข้ากันได้ของปลั๊กอิน : Popup Maker สามารถรวมเข้ากับปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยมมากมาย เช่น WooCommerce , Contact Form 7 และอื่นๆ ช่วยให้มีฟังก์ชันการทำงานและความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น

เวอร์ชันที่ต้องชำระเงินของ Popup Maker เริ่มต้นที่เดือนละ 16 เหรียญสหรัฐ แต่จะมีเวอร์ชันฟรีให้ใช้งานหากคุณไม่ต้องการฟีเจอร์พรีเมียมทั้งหมด

เหตุผลที่คุณควรแปลป๊อปอัป WordPress ของคุณ

คุณคงไม่อยากออกจากป๊อปอัปโดยไม่แปลข้อความเหล่านั้นเมื่อเว็บไซต์ของคุณได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ แล้ว เมื่อทุกอย่างบนเว็บไซต์ของคุณรวมถึงป๊อปอัปได้รับการแปลแล้ว ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณจะเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณที่ราบรื่น

นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพิ่มการเติบโตของธุรกิจของคุณได้โดยการสร้างโอกาสในการขาย ซึ่งสามารถทำได้ผ่านป๊อปอัปและแบนเนอร์ เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น อัตราการแปลงของคุณก็จะเพิ่มขึ้นด้วย

นอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในตลาดต่างประเทศเมื่อคุณมีรายชื่อลูกค้าอีเมลที่ครอบคลุมทั่วโลก และคุณยังสามารถลดอัตราการละทิ้งตะกร้าสินค้าได้อีกด้วย

วิธีการแปลป๊อปอัปของคุณด้วย ConveyThis

การแปลป๊อปอัป WordPress ของคุณด้วย ConveyThis เป็นกระบวนการที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพซึ่งรับรองว่าป๊อปอัปของคุณ รวมถึงเนื้อหาอื่นๆ ของเว็บไซต์ของคุณ จะได้รับการแปลโดยอัตโนมัติ ConveyThis ช่วยลดความยุ่งยากในการแปลด้วยตนเอง และช่วยให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่การมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้นให้กับผู้ชมทั่วโลกได้ นี่คือวิธีที่คุณสามารถแปลป๊อปอัปของคุณได้อย่างง่ายดายโดยใช้ ConveyThis:

1. ติดตั้งปลั๊กอิน ConveyThis

ขั้นตอนแรกคือการติดตั้งปลั๊กอิน ConveyThis บนเว็บไซต์ WordPress ของคุณ กระบวนการติดตั้งนั้นง่ายและรวดเร็ว ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

• ไปที่แดชบอร์ด WordPress : ไปที่พื้นที่ผู้ดูแลระบบ WordPress ของคุณ
• ติดตั้งปลั๊กอิน: ในส่วน “ปลั๊กอิน” คลิกที่ “เพิ่มใหม่” ค้นหา “ConveyThis” แล้วคลิก “ติดตั้งทันที”
• เปิดใช้งานปลั๊กอิน : เมื่อติดตั้งแล้วให้เปิดใช้งานปลั๊กอินเพื่อเริ่มต้นใช้งาน

ปลั๊กอินนี้จะตรวจจับและแปลเนื้อหาทั้งหมดในเว็บไซต์ของคุณโดยอัตโนมัติ รวมถึงป๊อปอัปด้วย โดยไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามพิเศษจากคุณ

2. กำหนดค่าคีย์ API ของคุณ

หลังจากติดตั้งและเปิดใช้งานปลั๊กอินแล้ว คุณจะต้องกำหนดค่าปลั๊กอินด้วย รหัส API รหัส API จะให้มาโดย ConveyThis เมื่อคุณสมัครใช้บริการ

• ไปที่การตั้งค่า ConveyThis: จากแดชบอร์ด WordPress ของคุณ ไปที่ ConveyThis บนเมนูทางด้านซ้ายมือ
• ป้อนอีเมลและรหัส API ของคุณ: ป้อนอีเมลและรหัส API ของคุณในช่องที่มี การดำเนินการนี้จะช่วยให้ปลั๊กอินสามารถสื่อสารกับบริการแปล ConveyThis ได้

3. เลือกภาษาต้นทางและภาษาเป้าหมายของคุณ

ขั้นตอนต่อไป คุณจะต้องเลือก ภาษาต้นฉบับ (ภาษาต้นฉบับของเว็บไซต์ของคุณ) และภาษาที่คุณต้องการแปลเว็บไซต์ของคุณเป็น

• เลือกภาษาต้นฉบับ : เลือกภาษาที่ใช้ในการเขียนเว็บไซต์ของคุณในตอนแรก
• เลือกภาษาเป้าหมาย: จากเมนูแบบดรอปดาวน์ ให้เลือกภาษาที่คุณต้องการเพิ่มลงในเว็บไซต์ของคุณ ConveyThis รองรับหลายภาษา ช่วยให้คุณเข้าถึงผู้ชมทั่วโลกที่กว้างขึ้น
• บันทึกการตั้งค่าของคุณ : เมื่อคุณเลือกแล้ว คลิก "บันทึก" เพื่อสรุปการตั้งค่าของคุณ

4. การแปลอัตโนมัติของป๊อปอัป

เมื่อตั้งค่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ConveyThis จะเริ่มแปลเนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์ของคุณ รวมถึง ป๊อปอัป นี่คือสาเหตุที่สิ่งนี้จะเปลี่ยนโฉมหน้าของเกม:

• การตรวจจับอัตโนมัติ: ConveyThis ตรวจจับเนื้อหาเว็บไซต์ทั้งหมดโดยอัตโนมัติ รวมถึงองค์ประกอบไดนามิก เช่น ป๊อปอัป คุณไม่จำเป็นต้องค้นหาด้วยตนเองว่าป๊อปอัปของคุณอยู่ที่ใดหรือต้องการอัปเดตเป็นหลายภาษา ระบบจะจัดการแทนคุณ
• ประสบการณ์ที่ราบรื่น : หลังจากกำหนดค่าปลั๊กอินแล้ว ผู้เยี่ยมชมของคุณจะเห็นป๊อปอัปในภาษาที่สอดคล้องกับการตั้งค่าภาษาของพวกเขา ซึ่งจะทำให้ประสบการณ์บนเว็บไซต์ของคุณทั้งหมดราบรื่นและสอดคล้องกัน

5. การปรับแต่งและการสลับภาษา

ConveyThis ช่วยให้การจัดการการตั้งค่าภาษาบนเว็บไซต์ของคุณเป็นเรื่องง่ายอย่างเหลือเชื่อ คุณสามารถปรับแต่ง ปุ่มเปลี่ยนภาษา ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับไปมาระหว่างภาษาต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย คุณลักษณะนี้ช่วยให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณสามารถโต้ตอบกับเนื้อหาของคุณในภาษาที่ต้องการได้อย่างราบรื่น

• ตัวเปลี่ยนภาษาที่ปรับแต่งได้ : คุณสามารถวางตัวเปลี่ยนภาษาไว้ในส่วนใดก็ได้ของเว็บไซต์ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ส่วนหัวหรือส่วนท้าย วิธีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับไปมาระหว่างภาษาต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงภายในป๊อปอัปด้วย
• การสลับภาษาทันที : เมื่อผู้ใช้เปลี่ยนภาษา ป็อปอัปจะอัปเดตทันทีเพื่อสะท้อนถึงภาษาที่เลือก

6. ไม่ต้องทำงานเพิ่มเติมสำหรับป๊อปอัป

ด้วยพลังของ ConveyThis คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการแปลป๊อปอัปของคุณด้วยตนเอง ไม่ว่าคุณจะใช้ปลั๊กอินป๊อปอัปยอดนิยม เช่น OptinMonster, Popup Maker หรืออื่นๆ ConveyThis จะรับประกันว่าป๊อปอัปทั้งหมดของคุณจะได้รับการแปลโดยอัตโนมัติควบคู่ไปกับเนื้อหาอื่นๆ ของเว็บไซต์ของคุณ เมื่อคุณทำตามขั้นตอนการตั้งค่าพื้นฐานแล้ว ป๊อปอัปจะพร้อมให้บริการผู้เยี่ยมชมทั่วโลกของคุณในหลายภาษา

7. เริ่มใช้ ConveyThis วันนี้

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว คุณสามารถนั่งพักผ่อนและผ่อนคลายในขณะที่ ConveyThis จัดการการแปลเว็บไซต์และป๊อปอัปของคุณ การใช้ ConveyThis ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเนื้อหาของคุณสามารถเข้าถึงได้โดยผู้เยี่ยมชมทั่วโลก ส่งผลให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมมากขึ้น อัตราการแปลงดีขึ้น และธุรกิจเติบโตมากขึ้น

• เริ่มใช้ ConveyThis วันนี้: หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง ConveyThis ตอนนี้ถือเป็นเวลาที่สมบูรณ์แบบ ด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อยจากคุณ คุณจะสามารถมอบประสบการณ์หลายภาษาให้กับผู้เยี่ยมชมของคุณได้ เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าและลดอุปสรรคในการเติบโตในระดับนานาชาติ

บทสรุป:

ป๊อปอัปเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดอย่างหนึ่งในการแปลงข้อมูลของเว็บไซต์ ไม่ว่าคุณจะต้องการเพิ่มรายชื่ออีเมล เสนอส่วนลด หรือเตือนผู้เยี่ยมชมเกี่ยวกับสินค้าที่ทิ้งไว้ในรถเข็น ป๊อปอัปที่ออกแบบมาอย่างดีจะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้และเพิ่มยอดขายได้อย่างมาก อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของป๊อปอัปขึ้นอยู่กับการปรับแต่ง ป๊อปอัปที่ตั้งเวลาไม่ดีหรือรบกวนเกินไปอาจทำให้ผู้เยี่ยมชมรู้สึกแปลกแยกได้ง่ายและนำไปสู่อัตราการออกจากระบบที่สูงขึ้น ในขณะที่กลยุทธ์ป๊อปอัปที่คิดมาอย่างดีจะช่วยเพิ่มการแปลงข้อมูลและความภักดีของลูกค้าได้

หากต้องการปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของป๊อปอัป จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับให้เหมาะสมทั้งในด้านการใช้งานและประสบการณ์ของผู้ใช้ เวลา การจัดวาง ความเกี่ยวข้องของเนื้อหา และการออกแบบเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ต้องปรับแต่ง นอกจากนี้ การทำให้แน่ใจว่าป๊อปอัปของคุณรองรับ หลายภาษาถือ เป็นตัวเปลี่ยนเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำหนดเป้าหมายผู้ชมต่างประเทศ ป๊อปอัปที่ไม่ได้รับการแปลอาจทำให้ผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาท้อถอยและทำให้พวกเขาหงุดหงิดกับอุปสรรคด้านภาษา เมื่อป๊อปอัปของคุณพูดภาษาของผู้ใช้ ก็จะสร้างความไว้วางใจ เพิ่มประสบการณ์โดยรวมของผู้ใช้ และเพิ่มโอกาสในการแปลงเป็นลูกค้า

นี่คือจุดที่ ConveyThis กลายเป็นทรัพย์สินอันล้ำค่า มันช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการแปลโดยตรวจจับและแปลองค์ประกอบทั้งหมดของเว็บไซต์ WordPress ของคุณโดยอัตโนมัติ รวมถึงป๊อปอัป โดยไม่ต้องดำเนินการด้วยตนเอง ปลั๊กอินทำให้คุณเข้าถึงผู้ชมทั่วโลกได้อย่างง่ายดายโดยเสนอป๊อปอัปในหลายภาษา ทั้งหมดนี้ในขณะที่ยังคงการออกแบบและการทำงานของเนื้อหาต้นฉบับของคุณไว้ ไม่ว่าคุณจะกำลังเปิดตัวข้อเสนอจำกัดเวลา แคมเปญสร้างลีด หรือคำเตือนการกู้คืนตะกร้าสินค้า ConveyThis จะทำให้ป๊อปอัปของคุณทำงานได้อย่างราบรื่นในทุกภาษาและภูมิภาค

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:

1. ConveyThis การผสานรวม – เพื่อสำรวจความเข้ากันได้กับ WordPress
2. วิธีการแปล WordPress – สำหรับคำแนะนำเพิ่มเติม
3. คู่มือช่วยเหลือสำหรับการแปลเว็บไซต์ WordPress – สำหรับการช่วยเหลือแบบทีละขั้นตอน
4. ซูโม่ – เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำคัญของป๊อปอัป